กินเจ ไม่จำเจ! ทำความรู้จักเนื้อสัตว์จากพืช ทางเลือกใหม่ที่อิ่มบุญและอิ่มท้อง

ในช่วงเทศกาลกินเจระหว่างวันที่ 21–29 ตุลาคม 2568 คนจำนวนมากหันมางดเว้นเนื้อสัตว์เพื่อสร้างบุญกุศลและรักษาสุขภาพ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจกังวลว่าการงดเนื้อสัตว์อาจทำให้ร่างกายขาดโปรตีน แต่ปัจจุบันทางเลือกใหม่อย่าง เนื้อสัตว์จากพืช (Plant-based meat) กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะไม่เพียงตอบโจทย์การกินเจ แต่ยังช่วยให้เราได้รับสารอาหารครบถ้วน โดยเฉพาะโปรตีนที่ร่างกายต้องการ

เนื้อสัตว์จากพืชคืออะไร?

เนื้อสัตว์จากพืชผลิตโดยตรงจากพืช โดยใช้วัตถุดิบอย่างถั่ว ธัญพืช เห็ด หรือแม้กระทั่งบีตรูต ผ่านกระบวนการสกัดและผสมผสานสารอาหารจำเป็น เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และใยอาหาร เพื่อทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะ รสชาติ กลิ่น และสัมผัสคล้ายกับเนื้อสัตว์จริง นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีการขึ้นรูปขั้นสูง เช่น การพิมพ์สามมิติ (3D printing) ที่ช่วยทำให้ชิ้นเนื้อจากพืชมีลักษณะคล้ายเส้นใยกล้ามเนื้อของสัตว์ ช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการรับประทานให้ใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์ยิ่งขึ้น

เหตุใดเนื้อสัตว์จากพืชจึงเป็นตัวเลือกที่ใช่สำหรับคนกินเจ?

  • โปรตีนไม่ขาดแน่นอน
    โปรตีนจากพืช เช่น ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา สาหร่าย และธัญพืชต่าง ๆ สามารถให้กรดอะมิโนและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายได้ แม้จะต่างจากเนื้อสัตว์บ้าง แต่ผู้ผลิตหลายรายได้เสริมวิตามินและแร่ธาตุสำคัญ เช่น วิตามินบี 12 สังกะสี ลงไปในผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
  • ดีต่อสุขภาพ
    การรับประทานเนื้อสัตว์จากพืชมักมีไฟเบอร์สูง ไขมันอิ่มตัวต่ำ และช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ดีกว่าการกินเนื้อสัตว์จริง
  • ดีต่อสัตว์และสิ่งแวดล้อม
    การผลิตเนื้อสัตว์จากพืชใช้ทรัพยากรน้อยกว่า ลดการเลี้ยงสัตว์ ลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจก และลดการใช้ยาปฏิชีวนะที่มักใช้ในอุตสาหกรรมปศุสัตว์
  • ดีต่อความมั่นคงทางอาหาร
    การผลิตอาหารจากพืชใช้พื้นที่และน้ำน้อยกว่า แต่สามารถผลิตได้มากกว่า ช่วยให้โลกมีอาหารเพียงพอในระยะยาว

จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นว่า การเลือกเนื้อสัตว์จากพืชในเทศกาลกินเจปี 2568 ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้บริโภคได้บุญ ได้สุขภาพ แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกทั้งต่อสัตว์ โลก และระบบอาหารโดยรวม ดังนั้น ในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ หากคุณอยากลองรสชาติใหม่ ๆ ที่ยังคงความใกล้เคียงเนื้อสัตว์จริง เนื้อสัตว์จากพืช (Plant-based meat) คือทางเลือกที่ทั้งอิ่มใจ อิ่มบุญ และอิ่มท้องไปพร้อมกัน

ข้อควรรู้!

  • ไม่ใช่ทุกเมนูเนื้อสัตว์จากพืชจะเป็นอาหารเจ
    แม้ว่าเนื้อสัตว์จากพืชทั้งหมดจะไม่มีเนื้อสัตว์ แต่บางเมนูอาจมีส่วนประกอบที่ผู้ถือศีลกินเจหลีกเลี่ยง เช่น กระเทียมและหัวหอม ดังนั้นผู้บริโภคที่กินเจควรตรวจสอบฉลากและส่วนผสมให้ดีก่อนเลือกซื้อ
  • บางเมนูให้พลังงานและสารอาหารสูงกว่าเนื้อสัตว์จริง
    เนื้อสัตว์จากพืชบางเมนูให้คุณค่าทางโภชนาการที่มากกว่าเนื้อสัตว์จริง เช่น ไฟเบอร์สูง ไขมันอิ่มตัวและแคลอรีต่ำกว่า แต่ในสินค้าบางประเภทกลับพบว่า มีปริมาณแคลอรี ไขมันอิ่มตัว และโซเดียมที่สูงกว่าเนื้อสัตว์จริงเสียอีก
  • เนื้อสัตว์จากพืชอาจมีกรดอะมิโนจำเป็นไม่ครบถ้วน
    เนื้อสัตว์จากพืชมักจะมีกรดอะมิโนจำเป็นน้อยกว่าเนื้อสัตว์จริง รวมถึงยังขาดวิตามินบี 12 หรือแร่ธาตุสำคัญบางชนิด ทั้งนี้ ผู้ผลิตบางรายได้อุดรอยรั่วดังกล่าวด้วยการเพิ่มเติมสารอาหารที่ขาดหายลงไป
  • ส่วนประกอบบางอย่างอาจก่อให้เกิดอาการแพ้
    เนื้อสัตว์จากพืชมักจะมีถั่ว กลูเต็น และแป้ง เป็นองค์ประกอบ ผู้ที่แพ้อาหารเหล่านี้ควรตรวจสอบส่วนผสมให้ดีก่อนรับประทาน และควรจะเลือกสินค้าที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่ควบคุมความปลอดภัยทางด้านอาหาร 

ผู้ที่สนใจสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ สารอาหาร “โปรตีน” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเนื้อสัตว์จากพืช ได้จากหนังสือเรียนของ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้แก่

  1. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.6 เล่ม 1 บทที่ 1 สารอาหารและระบบย่อยอาหาร (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
  2. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์กายภาพ ม.5 เล่ม 1 บทที่ 3 อาหาร (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)

ขอบคุณข้อมูลจาก:

  1. The Good Food Institute: https://gfi.org/plant-based/
  2. สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.): https://www.nxpo.or.th/th/28697/
  3. THE STANDARD: https://thestandard.co/podcast/top-to-toe-ep13/

ส่งข้อความถึงเรา
Skip to content