Antonie van Leeuwenhoek บิดาแห่งจุลชีววิทยา ช่างทำเลนส์ชาวดัตช์ที่เปิดประตูสู่โลกของสิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋ว

ช่างทำเลนส์ชาวดัตช์ที่เปิดประตูสู่โลกของสิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋ว

ภาพ Antonie van Leeuwenhoek โดยศิลปินชาวดัตช์ Jan Verkolje สังเกตได้ว่าในมือขวาของเลเวินฮุกกำลังถือ forcep หรือปากคีบด้วย ปัจจุบันจัดแสดงที่ the Rijksmuseum กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

รู้หรือไม่ว่าคนแรกที่มองเห็นโปรโตซัว แบคทีเรียรวมถึงเม็ดเลือดแดงไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ แต่เป็นพ่อค้าผ้าธรรมดาท่านหนึ่ง วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ Antonie van Leeuwenhoek (อันโตนี ฟาน เลเวินฮุก) ชายที่เปลี่ยนโลกวิทยาศาสตร์ไปตลอดกาล และได้รับการขนานนามเป็นบิดาแห่งจุลชีววิทยา “the Father of Microbiology”

ากร้านขายผ้าสู่ห้องทดลองส่วนตัว

เลเวินฮุกเกิดวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 1632 ที่เมือง Delft ประเทศเนเธอร์แลนด์ เขาไม่ได้ร่ำเรียนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และไม่สามารถอ่านภาษาละตินที่นักวิทยาศาสตร์สมัยนั้นใช้กันด้วย อาชีพของเขาคือพ่อค้าขายผ้า แต่มีงานอดิเรกคือการทำเลนส์เพื่อนำมาส่องขยายวัตถุที่เค้าสนใจ!   

ภาพกล้องจุลทรรศน์เลนส์เดี่ยวที่ประดิษฐ์โดยเลเวินฮุก

ขอขยายความเพิ่มเติมว่าเลเวินฮุกไม่ใช่คนที่ประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์ แต่เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้กล้องจุลทรรศน์ต่างหาก  ซึ่งจุดเริ่มต้นของงานประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ของเลเวินฮุกมาจากงานประจำของเขา เพราะเขาต้องการตรวจสอบคุณภาพเส้นใยผ้าซึ่งแต่เดิมเขาใช้แว่นขยาย แต่เขาต้องการที่จะเห็นเส้นใยได้ดีและชัดขึ้น เขาเลยเริ่มฝึกฝนเจียรและขัดเลนส์ด้วยตัวเอง จนสามารถสร้างเลนส์เพื่อมาประกอบเป็นกล้องจุลทรรศน์ที่ขยายได้ถึง 270 เท่า ในขณะที่กล้องจุลทรรศน์สมัยนั้นขยายได้เพียง 20-30 เท่าเท่านั้น! การประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์ของเลเวินฮุกนั้นมีความเฉพาะตัวอย่างมาก เพราะสร้างเพื่อใช้งานส่วนตัว เน้นประโยชน์ใช้สอย โดยที่เป็นเพียงแผ่นโลหะ 2 แผ่นประกบกัน มีเลนส์ขนาดเล็กอยู่ตรงกลาง และมีหมุดยึดวัตถุที่สามารถปรับโฟกัสได้  นอกจากกล้องจุลทรรศน์รูปทรงตามภาพด้านบนแล้ว ลีเวินฮุคได้ประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์ที่มีความหลากหลายเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของเขาอีกด้วย

การค้นพบที่เปลี่ยนโลก

ด้วยกล้องจุลทรรศน์ที่พัฒนาขึ้นเองเลเวินฮุกเริ่มสำรวจตรวจส่องทุกอย่างรอบตัว ตั้งแต่น้ำในทะเลสาบ Berkelsemeer ที่เขาได้ค้นพบโลกของจุลินทรีย์ที่เขาเรียกว่า animalcules หรือสัตว์ตัวเล็ก  จากนั้นเขาก็สังเกตสิ่งที่ได้พบในน้ำฝน น้ำในบ่อ แม้กระทั่งคราบฟัน ส่วนผลลัพธ์น่ะหรือ …. เขาได้สังเกตเห็น

✿ แบคทีเรีย จากการขูดคราบฟันมาส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ และเขาได้วาดภาพแบคทีเรียที่เขามองเห็น นับว่าเป็นภาพวาดแบคทีเรียชุดแรกๆของโลกเลยทีเดียว
✿ เซลล์เม็ดเลือดแดง เขาสังเกตและอธิบายการไหลเวียนของเซลล์เม็ดเลือดแดงผ่านหลอดเลือดฝอยในหางปลา วาดและอธิบายรูปร่างของเซลล์เม็ดเลือดแดงอย่างชัดเจน
✿ สเปิร์ม เขาสังเกตสเปิร์ม อธิบายรูปร่างและพิสูจน์ว่า สเปิร์มเป็นสิ่งที่พบได้ในเพศผู้ของสิ่งมีชีวิต
นอกจากนี้เขายังสังเกตโครงสร้างซับซ้อนของสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด เช่น ตาของแมลงปอ เนื้อเยื่อพืชและสัตว์ชนิดต่างๆ

เลเวินฮุกบันทึกและวาดทุกสิ่งที่เห็นอย่างละเอียด และส่งจดหมายเป็นร้อยๆฉบับ แจ้งการค้นพบต่างๆของเขาไปที่ราชสมาคมแห่งลอนดอน หรือ The Royal Society of London ที่เป็นศูนย์กลางของวิทยาศาสตร์ในยุคนั้น จากข้อมูลที่ละเอียดละออและคุณภาพงานที่น่าทึ่ง ทำให้เขาได้รับเลือกเป็นสมาชิกของราชสมาคมในเวลาต่อมา และเลเวินฮุกยังคงติดต่อกับราชสมาคมตลอดชีวิตของเขา

นอกจากการสังเกต animalcules แล้ว เลเวินฮุกยังได้ศึกษา flea หรือตัวหมัดตั้งแต่ไข่จนเป็นตัวเต็มวัย และได้รายงานสิ่งที่เขาค้นพบนี้อย่างละเอียดในเอกสารชื่อ “Nature’s Mysteries Disclosed” ความยาว 600 หน้า และส่งไปยังราชสมาคมด้วย และจากการศึกษานี้ทำให้เลเวินฮุกคัดค้านทฤษฎี “spontaneous generation”  ซึ่งเป็นทฤษฎีที่เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นได้เองจากสิ่งไม่มีชีวิต เช่น ยุงหรือหมัดเกิดจากสิ่งเน่าเปื่อย แต่เขาเชื่อมั่นในแนวคิดที่ว่าสิ่งมีชีวิตมีกำเนิดมาจากพ่อแม่ ซึ่งสืบเนื่องมาจากการทดลองของเขานั่นเอง

รดกที่ยังอยู่

เลเวินฮุกเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1723 เมื่ออายุ 90 ปี แต่มรดกของเขายังคงอยู่ตราบจนทุกวันนี้ เขาเปิดประตูสู่สิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋วอยู่รอบตัวเรา การค้นพบ animalcules หรือสัตว์ตัวเล็กของเขาเป็นการวางรากฐานสู่สาขาวิชาจุลชีววิทยา (Microbiology)  และแม้เขาจะไม่ได้เป็นนักประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์คนแรก แต่เขาก็พัฒนากล้องจุลทรรศน์เลนส์เดี่ยวจนมีประสิทธิภาพสูงมาก และพัฒนาเทคนิคการเตรียมตัวอย่างที่หลากหลาย เพราะเขาสังเกตสิ่งมีชีวิตหลายชนิด นอกจากนี้การเป็นผู้ที่มีความอยากรู้อยากเห็น ความอดทนและช่างสังเกต รวมถึงความละเอียดในการบันทึก ที่นับเป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ยุคใหม่เลยทีเดียว  

และท้ายสุดเลเวินฮุกพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าการทดลองวิทยาศาสตร์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ห้องแล็บหรูหราเท่านั้น!

คำถามท้ายเรื่อง: ถ้าคุณมีกล้องจุลทรรศน์อยู่ตอนนี้ อยากใช้กล้องมาดูอะไรบ้าง?

ชวนรู้เพิ่มเติม:

รู้จักกล้องจุลทรรศน์มากขึ้นกับบทความกล้องจุลทรรศน์และส่วนประกอบของกล้องจุลทรรศน์ จากเว็บไซต์ คลังความรู้ SciMath https://www.scimath.org/lesson-biology/item/7873-2018-02-27-02-46-18

ทดลองใช้กล้องจุลทรรศน์แบบ 3D interactive บนเว็บไซต์ คลังความรู้ SciMath https://www.scimath.org/desktop-application/item/13110-virtual-microscope

รู้หรือไม่ ? กล้องจุลทรรศน์ชนิดเลนส์เดี่ยวที่เลเวินฮุกใช้นั้น ต่างจากกล้องจุลทรรศน์เชิงประกอบที่มีเลนส์หลายชิ้นที่ Robert Hook (โรเบิร์ต ฮุค) นำมาใช้งาน ซึ่งโรเบิร์ต ฮุคคือนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษที่ค้นพบเซลล์สิ่งมีชีวิต และเป็นผู้ที่บัญญัติคำว่า “เซลล์” เป็นครั้งแรก  โดยกล้องจุลทรรศน์เลนส์เดี่ยวที่เลเวินฮุกนิยมใช้นั้นใช้งานยากกว่าชนิดเลนส์หลายชิ้น แต่กลับให้ภาพที่คมชัดและเพี้ยนน้อยกว่าเพราะมีเลนส์เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น

อ้างอิง :

ภาพในบทความ :

ภาพในหัวเรื่อง :

เอกสาร :


ส่งข้อความถึงเรา
Skip to content