“ไฟฟ้าช็อต” และ “ไฟฟ้าดูด” ถือเป็นอันตรายใกล้ตัวที่เกิดขึ้นได้ง่ายในบ้านของเรา หากเพื่อน ๆ ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างไม่ระมัดระวังหรือใช้ไม่ถูกวิธี ก็มีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บเนื่องจากไฟฟ้าช็อตหรือไฟฟ้าดูดได้ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนแบบนี้ ยิ่งต้องระวังให้ดี!! เพราะน้ำรวมถึงสภาพอากาศที่เปียกชื้น อาจเพิ่มความรุนแรงของอุบัติเหตุทางไฟฟ้าให้หนักยิ่งขึ้นไปอีก
ไฟดูด >> เกิดเมื่อร่างกายสัมผัสกับชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ที่มีไฟฟ้ารั่ว ทำให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านเข้าสู่ร่างกายลงไปยังพื้นดิน ทำให้กล้ามเนื้อภายในร่างกายได้รับความเสียหาย มีแผลไหม้ มีอาการเกร็ง ชัก หมดสติ อาจส่งผลให้หัวใจทำงานผิดจังหวะ หัวใจเต้นอ่อนลงจนหยุดเต้น และเสียชีวิตได้ในที่สุด
ไฟช็อต >> คือไฟฟ้าลัดวงจร เกิดจากการโอนกระแสไฟฟ้าจากสายไฟเส้นหนึ่งไปยังเส้นอื่น ๆ โดยไม่ผ่านอุปกรณ์โหลด หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าใด ๆ ทำให้เกิดความร้อนสูงในจุดที่มีการลัดวงจร อาจทำให้เกิดประกายไฟขึ้น และเป็นเหตุให้ไฟไหม้บ้านเรือนได้
วันนี้ IPST Thailand มี 8 วิธีป้องกันอันตรายจาก “ไฟฟ้าช็อต” และ “ไฟฟ้าดูด” ที่เพื่อน ๆ สามารถเรียนรู้และปฏิบัติตามได้ง่าย ๆ เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินอันมีค่าภายในบ้าน
8 วิธีป้องกันอันตรายจาก “ไฟฟ้าช็อต” และ “ไฟฟ้าดูด”
- 1. หมั่นตรวจเช็คอุปกรณ์ไฟฟ้าและสายไฟให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ
- 2. ระวังอย่าให้อุปกรณ์ไฟฟ้าและสายไฟเปียกน้ำหรือมีความชื้นสะสม
- 3. มือเปียกหรือตัวเปียก ห้ามจับอุปกรณ์ไฟฟ้าโดยเด็ดขาด
- 4. ติดตั้งสายดินและเครื่องตัดไฟฟ้าลัดวงจรภายในบ้านให้เรียบร้อย
- 5. ไม่ควรใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าหลายอย่างกับปลั๊กไฟตัวเดียว
- 6. วางสายไฟให้พ้นทางเดินและไม่ควรวางสิ่งของที่มีน้ำหนักมากทับสายไฟ
- 7. ควรซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชำรุดให้เรียบร้อย แต่ห้ามซ่อมเองโดยที่ไม่มีความรู้
- 8. เลือกอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)
กรณีเกิดน้ำท่วมบ้าน
- 1. ควรตัดการจ่ายกระแสไฟฟ้าภายในบ้าน และงดใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด เพราะอาจเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วได้
- 2. หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำเข้าใกล้ปลั๊กไฟ สายไฟอุปกรณ์ที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า หรือเสาไฟฟ้า เพราะอาจมีไฟฟ้ารั่วกระจายออกมาเป็นวงกว้างได้
- 3. อย่าแตะอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียบปลั๊กอยู่ในขณะที่ร่างกายเปียกชื้นหรือสัมผัสน้ำที่พื้น