ขยายฐานนักวิทย์ทุนรัฐบาลสู่ภาคอุตสาหกรรม พัฒนางานวิจัยร่วมกับเอกชน ภาครัฐขยายฐานนักวิจัย/นักวิทยาศาสตร์ทุน พสวท. ส่งไปชดใช้ทุนในหน่วยงานวิจัยเอกชน ที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐ ตอบโจทย์กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต
จากมติการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (พสวท.) ระดับหลังสำเร็จการศึกษา เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2564 โดยมีศาสตราจารย์เกียรติคุณพรชัย มาตังคสมบัติ เป็นประธาน และศาสตราจารย์ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เป็นรองประธาน ได้มีมติเห็นชอบให้เพิ่มหน่วยงานเอกชนที่มีหน่วยปฏิบัติงานวิจัยและพัฒนาเพื่อให้ผู้สำเร็จการศึกษาทุนพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) เข้าปฏิบัติงานตอบแทนทุน พสวท. ที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล อันเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ได้อนุมัติหลักการให้เพิ่มหน่วยปฏิบัติงานตอบแทนทุนฯ เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563 โดยปัจจุบันมีหน่วยงานวิจัยและพัฒนาที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลให้ผู้สำเร็จการศึกษาทุน พสวท. ปฏิบัติงานตอบแทนทุนแล้ว 47 แห่ง
ผู้อำนวยการ สสวท. กล่าวว่า “ปัจจุบันภาคเอกชนได้ลงทุนเพื่อการวิจัยมากขึ้นและมีตำแหน่งงาน ที่เหมาะสม ให้ผู้สำเร็จการศึกษาทุน พสวท. สามารถปฏิบัติงานตอบแทนทุนได้ โดยผู้สำเร็จการศึกษาทุน พสวท. หรือหน่วยงานเอกชน ต้นสังกัดจะต้องชดใช้เงินทุนให้กับ สสวท. จำนวน 1 เท่า ของเงินทุนการศึกษาและ/หรือเงินอื่นใดที่ผู้รับทุนได้รับจาก สสวท. โดยคิดทั้งมูลค่าความร่วมมือในรูปแบบของตัวเงิน (in-cash) และรูปแบบของความช่วยเหลือ (in-kind) เช่น การสนับสนุนทรัพยากรในด้านต่าง ๆ การเป็นวิทยากร สนับสนุนสถานที่ ในการฝึกอบรม ฯลฯ ซึ่งมีผู้สำเร็จการศึกษาทุน พสวท. เข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานเอกชนเป็นกรณีนำร่องแล้ว เช่น บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด บริษัท กสิกร แล็บส์ จำกัด บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด และสถาบันวิทยสิริเมธี เป็นต้น” ซึ่งนโยบายนี้จะช่วยขยายฐานการวิจัยเพื่อตอบสนองการพัฒนาประเทศได้ตรงจุด ทำให้นักวิจัยได้รับการสนับสนุนในด้านเทคโนโลยีและทรัพยากรที่เหมาะสม ทันสมัยจากภาคเอกชน ส่งผลให้เกิดขวัญกำลังใจที่จะสร้างงานวิจัยตอบแทนประเทศ โดยสอดคล้องกับวัตถุประสงค์แรกเริ่มของการให้ทุน พสวท. คือ ต้องการสร้างนักวิจัยหรือนักวิทยาศาสตร์ศักยภาพสูงมาร่วมพัฒนาประเทศ
ที่ประชุมยังได้เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดหาหน่วยงานให้ผู้สำเร็จการศึกษา ทุน พสวท. ที่อยู่ระหว่างรองาน โดยมี 2 รูปแบบ คือ
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เน้นย้ำว่า “ภาคเอกชนกำลังอยู่ในสถานะที่จะพึ่งพาตัวเองมากขึ้นในเชิงเทคโนโลยี และนวัตกรรม มีการวิจัยและพัฒนาเพิ่มมากขึ้นต่างจากสมัยก่อนที่ซื้อเทคโนโลยีอย่างเดียว และหวังว่าเมื่อมีการส่งเสริมจากหลายฝ่ายจะช่วยให้ภาคเอกชนมีความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตัวเองในเชิงเทคโนโลยีเพื่อการแข่งขันต่อไปได้ ซึ่งถือว่าในส่วนนี้จะช่วยเสริมสร้างบุคลากรที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติต่อไป” พร้อมทั้งให้ข้อคิดเห็นว่าภาคเอกชนควรร่วมมือกับมหาวิทยาลัยของรัฐเพื่อให้ทุน กับบัณฑิตศึกษาสร้างนักวิจัยระดับปริญญาโทและเอกออกสู่ภาคอุตสาหกรรมโดยตรงด้วยเช่นกัน