สสวท. รายงาน ครม. ปี 65 ผลงานสุดเจ๋ง 5 ยุทธศาสตร์ชาติ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) รับทราบผลการเสนอรายงานประจำปี 2565 ของ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) รวมทั้งแสดงผลงานของ สสวท. ในปีที่ล่วงมาและแผนงานที่จะจัดทำในปีต่อไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำเสนอเพื่อทราบ สรุปสาระสำคัญใน 5 ยุทธศาสตร์ (เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566) ดังนี้

1. การพัฒนาหลักสูตร สื่อ และกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติการและการสร้าง ความเข้าใจในระดับที่เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละกลุ่มโดยใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ

เช่น การพัฒนาหลักสูตร สื่อ และ กระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการวิเคราะห์การแก้ปัญหา และกระตุ้นให้เกิดและใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเป็น ระบบสำหรับโรงเรียนในโครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ (เช่น พัฒนากิจกรรมวิทยาศาสตร์ในเนื้อหาด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสะเต็มศึกษา ) และการพัฒนาเครื่องมือที่เป็นกรอบการประเมินและข้อสอบวิชา วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์สำหรับคัดเลือกนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2565 (TCAS 65)

นอกจากนี้ ยังได้จัดทำรายงานการวิจัยเพื่อศึกษาคุณภาพของข้อสอบวิชาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ที่ใช้ในการคัดเลือกนักเรียน ทำให้ได้ประเด็นและสารสนเทศสำหรับใช้เป็นแนวทางในการวางแผนเชิงนโยบายในการพัฒนาการเรียนการสอนและเตรียมนักเรียนให้มีคุณลักษณะที่สอดคล้องและเหมาะสมกับการศึกษาใน ระดับอุดมศึกษาต่อไป

2. การขับเคลื่อนการพัฒนาและยกระดับการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี และสถานศึกษาผ่านเครือข่าย สสวท. ให้มีคุณภาพทั่วประเทศอย่างเป็นระบบ

เช่น การพัฒนา ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี และบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนโครงการพระราชดำริ ในรูปแบบออนไลน์ด้านการจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง สสวท. ด้วยสื่อ Project 14 วิชาคณิตศาสตร์ ให้แก่ครูโรงเรียนตำรวจตะเวนชายแดน จำนวน 608 คน และการยกระดับคุณภาพโรงเรียนระดับอำเภอด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี (โรงเรียนคุณภาพ SMT) ตามมาตรฐาน สสวท. มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการตั้งแต่ปี 2561-2565 จำนวน 1,659 โรงเรียน

 3. การขับเคลื่อนกระบวนการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีให้ เน้นความเข้าใจ ลงมือปฏิบัติการ และสามารถนำไปใช้จริงทั้งในและนอกระบบตามแนวทาง สสวท.

เช่น การบริหารจัดการเพื่อให้บริการศูนย์เรียนรู้ดิจิทัลด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี (IPST Learning Space) โดยระบบคลังความรู้ SciMath เผยแพร่สื่อ จำนวน 148 รายการ ระบบอบรมครูเผยแพร่หลักสูตร 50 หลักสูตร ระบบการสอบออนไลน์มีข้อสอบเพิ่ม 81 ข้อ และแบบฝึกหัด 1,303 ข้อ และมีปริมาณการใช้งานระบบต่าง ๆ นับเป็น Sessions จำนวน 22,971,052 ราย

4. การเร่งรัด พัฒนา และส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีเพื่อเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมตามนโยบายประเทศไทย 4.0

 เช่น การบริหารการผลิตครูที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (สควค.) โดย บรรจุผู้รับทุนโครงการ สควค. ที่สำเร็จการศึกษาในตำแหน่งครูผู้ช่วย จำนวน 928 คน สร้างเครือข่ายและความ เข้มแข็งทางวิชาการหลังสำเร็จการศึกษาให้แก่เครือข่ายวิชาการครู ผ่านการจัดประชุมวิชาการต่าง ๆ การบริหาร การพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) โดยคัดเลือกนักเรียน นิสิต นักศึกษาเข้ารับทุน พสวท. จำนวน 108 คน

รวมทั้งได้คัดเลือกผู้แทนประเทศไทยไปแข่งคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ โอลิมปิกระหว่างประเทศ ประจำปี พ.ศ. 2565 การแข่งขันประกอบด้วย 5 วิชา ได้แก่ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ เคมี ชีววิทยา และฟิสิกส์ จำนวน 23 คน โดยได้รับรางวัล เช่น คณิตศาสตร์โอลิมปิกระหว่าง ประเทศ ครั้งที่ 63 ได้ 3 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง ทำคะแนนรวมได้ 193 คะแนน เป็นลำดับที่ 6 จาก 104 ประเทศ

 นอกจากนี้ ได้มีการสนับสนุนทุนการศึกษานักเรียน นักศึกษา และครู เพื่อพัฒนาให้เป็นผู้มี ความสามารถพิเศษ ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี และตอบสนองต่อความต้องการของประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ทุนพสวท. จำนวน 1,574 ทุน ทุน สควค. จำนวน 7 ทุน และทุนโอลิมปิกวิชาการ จำนวน 158 ทุน

5. การส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กรและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มการยอมรับ สสวท. ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลงการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีของเยาวชนให้ทันสมัย

 เช่น การพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถ และสมรรถนะตามกลุ่มงานอย่างเป็นระบบและการประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในการทำงานของ สสวท. และสร้างความตระหนักรู้ทางวิทยาศาสตร์ เช่น จัดเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ครั้งที่ 17 ในหัวข้อ “สุขภาพที่ดีขึ้นจากความ เข้าใจที่มากขึ้น (Better Health Through Better Understanding)” โดยมีภาพยนตร์วิทยาศาสตร์จากนานาชาติ จัดฉาย 30 เรื่อง ให้ได้รับชมฟรีที่ศูนย์ฉายภาพยนตร์ทั่วทุกภูมิภาค มีครูและนักเรียนเข้าชมภาพยนตร์ในเทศกาล จำนวน 286,823 คน

ที่มาและดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่ :

ศธ.360องศา : https://moe360.blog/2023/03/28/28032566/

www.edunewssiam.com : https://bit.ly/40wBZUi


ส่งข้อความถึงเรา
Skip to content