สสวท. ย้ำทุ่มสุดตัว พัฒนาหนังสือดีมีมาตรฐานสู่ผู้เรียน ใช้ AR เชื่อมแหล่งความรู้คู่ลงมือปฏิบัติ สร้างทักษะเด็กไทยทันยุค

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่ยุคเริ่มแรกมาจนถึง 50 ปี ในภารกิจการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีของประเทศไทย สสวท. มีบุคลากรคุณภาพสูง  มีองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์เทียบเท่าสากลมาโดยตลอด และพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง จนเป็นมืออาชีพด้านการศึกษาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ และได้รับการยอมรับในวงการศึกษาไทยและระดับนานาชาติ  โดย สสวท. จัดทำหนังสือเรียนคุณภาพสอดคล้องตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และเหมาะสมกับผู้เรียน เพื่อใช้ประกอบการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 รวมทั้งสิ้น 12 ชั้นปี จำนวน 120 เล่ม พนักงาน สสวท. ครูผู้สอน และอาจารย์มหาวิทยาลัยจากทั่วประเทศจำนวนหลายร้อยคน ร่วมทำงานกันอย่างทุ่มเทในการยกร่างหนังสือ ลงพื้นที่วิจัย ทดลองสอนจริง และปรับปรุงเนื้อหาให้สอดคล้องกับบริบทของไทย เพื่อให้นักเรียนไทยกว่า 7 ล้านคน ได้มีหนังสือดี ๆ เป็นสื่อการเรียนรู้หลัก เสริมทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุมีผลตามสมรรถนะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21

ดร.พรชัย  อินทร์ฉาย รักษาการผู้อำนวยการ สสวท. กล่าวว่า ผลผลิตของ สสวท. คือ “ต้นฉบับ”  ส่งต่อให้องค์การค้าของ สกสค. นำสู่โรงพิมพ์ จัดพิมพ์ และกระจายสู่ตัวแทนจำหน่ายให้ถึงโรงเรียนและถึงมือนักเรียน โดยมีสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตรวจสอบคุณภาพของหนังสือเรียน ออกประกาศ และให้อนุญาตจัดจำหน่ายหนังสือเรียน ทั้งนี้ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ. เป็นผู้กำหนดราคาหนังสือเรียนทุกเล่ม ของ สสวท. และเอกชน ที่เผยประกาศเผยแพร่ให้ใช้ในโรงเรียนภายใต้สังกัดของ สพฐ. โดยพิจารณาจากคุณภาพการพิมพ์ ชนิดกระดาษ และจำนวนเล่มที่สำนักพิมพ์ขออนุญาต

หนังสือเรียนยุคใหม่ของ สสวท. นี้ได้ผ่านการปรับปรุงทั้งด้านเนื้อหา รูปแบบการจัดวาง กระดาษ คุณภาพด้านการพิมพ์และการเข้าเล่ม ตลอดจนแทรกเทคโนโลยี AR  QR Code ที่สามารถเชื่อมโยงสู่แหล่งข้อมูล IPST Learning Space ของ สสวท. หรือแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่เชื่อถือได้ อีกทั้งในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ สสวท. อัปโหลดคู่มือครูดิจิทัลในรูปแบบ Interactive pdf  ให้ครูทุกคนได้ดาวน์โหลดนำไปใช้สอนควบคู่กับหนังสือเรียนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ภายในคู่มือครูนอกจากจะมีแผนการจัดการเรียนรู้และข้อมูลที่จำเป็นอื่น ๆ แล้วยังสามารถเชื่อมโยงไปสู่คลิปกิจกรรมวิทยาศาสตร์ในหนังสือเรียนให้ครูได้ศึกษาล่วงหน้า จะช่วยให้ครูมีความมั่นใจในการสอนทำแล็บแก่นักเรียนมากขึ้น

รักษาการผู้อำนวยการ สสวท. กล่าวถึงผลตอบรับกับหนังสือเรียนที่ปรับปรุงใหม่ถือว่าดีมากทั้งจากกลุ่มนักเรียน ครูและผู้ปกครอง และผลจากการประเมินติดตามคุณภาพของหนังสือเรียน สสวท. ว่า อยู่ในระดับดีถึงดีมาก รวมทั้งพฤติกรรมการสอน ของครูในโรงเรียนที่ใช้หนังสือเรียนควบคู่กับการอบรมครูกับ สสวท. อย่างต่อเนื่อง มีพัฒนาการด้านการสอนไปในทิศทางที่ดีขึ้น และผลการติดตามความเปลี่ยนแปลงของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (O-NET) ของนักเรียนก่อนใช้หนังสือเรียนของ สสวท. (ปี 2562) และหลังการใช้หนังสือเรียนควบคู่กับการอบรมครูกับ สสวท. (ปี 2564) ในโรงเรียนกลุ่มตัวอย่าง

พบว่า คะแนนเฉลี่ยหลังใช้หนังสือเรียนของ สสวท. สูงกว่าก่อนใช้หนังสือเรียนทุกระดับชั้น และครูกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ (มากกว่าร้อยละ 70) ระบุว่านักเรียนที่ใช้หนังสือเรียนของ สสวท. จะได้ลงมือปฏิบัติและมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ทำให้นักเรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์สูงขึ้น มีทักษะการคิดแก้ปัญหา ทักษะการคิดคำนวณ สามารถเชื่อมโยงความรู้ที่เรียนกับชีวิตจริงได้ กล้าแสดงออกมากขึ้น มีความเชื่อมั่นในตนเอง สนใจอ่านหนังสือ มีการสืบค้นมากขึ้น รวมทั้งมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้นทั้งในห้องเรียนและการทดสอบ O-NET

รักษาการผู้อำนวยการ สสวท. กล่าวต่อไปว่า นอกจากหนังสือเรียนแล้ว สสวท. ยังมีมาตรการ​รองรับ​การเรียนรู้​รูปแบบใหม่ โดยต่อยอดหนังสือเรียนสู่สื่อดิจิทัล ภายใต้โครงการ Project 14 เริ่มดำเนินงานตั้งแต่สถานการณ์ COVID-19 ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน สสวท. ได้พัฒนาสื่อ และอัพโหลดคลิปการสอนครบทุกหัวข้อตามหนังสือเรียน สสวท. แล้วทั้งสิ้น 2,683 คลิป และมีจำนวนผู้เข้าชมประมาณ 40 ล้านครั้ง และ สสวท. ยังได้ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการนำสื่อ Project 14 เผยแพร่ผ่านระบบ Digital Education Excellence Platform: DEEP ของกระทรวงศึกษาธิการอีกด้วย และให้บริการศูนย์เรียนรู้ดิจิทัลด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี (IPST Learning Space) ที่สอดคล้องกับหลักสูตรในโรงเรียน ประกอบด้วย 3 ระบบหลัก ได้แก่ ระบบอบรมครู ระบบการสอบออนไลน์ และระบบคลังความรู้ SciMath ซึ่งปี 2564 มีการใช้งานระบบต่าง ๆ เพิ่มขึ้น นับเป็น Sessions ถึง 23.20 ล้านราย สูงขึ้นจากปี 2563 ที่มีปริมาณการเข้าใช้งาน 16.71 ล้านราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้ใช้งานที่ต้องการใช้สื่อดิจิทัลทั้งในและนอกชั้นเรียนเพิ่มมากขึ้น 

ดร.พรชัย  อินทร์ฉาย รักษาการผู้อำนวยการ สสวท.

“ปัจจุบันสิทธิ์ในการเลือกใช้และสั่งซื้อหนังสือเรียนเป็นของสถานศึกษา โดยคณะกรรมการการบริหารสถานศึกษา และคณะผู้บริหารของโรงเรียนเป็นผู้ได้รับมอบอำนาจในการตัดสินใจเลือกซื้อหนังสือเรียนโดยไม่จำเป็นต้องเลือกใช้แต่เพียงหนังสือเรียนของ สสวท. ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า กระทรวงศึกษาธิการหรือ สสวท. ไม่มีอำนาจ ในการบังคับให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาเลือกใช้สื่อของ สสวท. แต่อย่างใด ทั้งนี้ หนังสือเรียน สสวท. เป็นหนังสือคุณภาพสูง   ที่ผลิตจากหน่วยงานของรัฐ จึงขอเชิญชวนให้สถานศึกษาใช้หนังสือดีที่ผลิตจากหน่วยงานที่มีส่วนร่วมในการจัดทำหลักสูตรโดยตรง ที่สามารถลิงก์ตรงไปยังคลังสื่อดิจิทัลขนาดใหญ่ที่ สสวท. ทำไว้รองรับฟรี  ซึ่งผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดสื่อ สสวท.   ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่เว็บไซต์ SciMath https://www.scimath.org”


ส่งข้อความถึงเรา
Skip to content